หมั่นคอยดูแลและรักษาหัวใจ

News ข่าวล่าสุด

คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

ตื่นนอนช่วงสายวันอังคารที่ 3 มกราคม กดรีโมตโทรทัศน์ด้วยความหวังว่าจะดูเกม อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) “มันเดย์ ไนท์” แบบมันๆ ระหว่าง บัฟฟาโล บิลล์ส พบ ซินซินเนติ เบงกอลส์ ซึ่งทั้ง 2 ทีมต่างมีโอกาสแย่งชิงอันดับ 1 ของสายเอเอฟซี (AFC) แต่ดันเจอภาพสนาม เพย์คอร์ สเตเดียม อันว่างเปล่า ผู้บรรยายพูดเหมือนว่ามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น และส่งสัญญาณว่าการแข่งขันต้องยุติลง เวลา 9 โมงกว่าๆ (ไทย)

นั่งดูนอนดูไปเรื่อยๆ กระทั่งเชื่อมั่นเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ว่า ทั้ง 2 ทีมคงไม่กลับลงสนามเพื่อแข่งขันต่อ จึงเปิดแล็บท็อปขึ้น กดเว็บไซต์ “อีเอสพีเอ็น (ESPN)” แล้วทราบว่าเกิดเหตุระทึกขวัญ ดามาร์ แฮมลิน เซฟตี บัฟฟาโล บิลล์ส วูบคาสนามแบบดื้อๆ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เข้ามาให้อ็อกซิเจน และปั๊มหัวใจ ก่อนนำตัวขึ้นรถพยาบาลส่งศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยซินซินเนติ อัพเดตล่าสุดระบุว่า แฮมลิน ยังอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด (ไม่อยากใช้คำว่า โคม่า เพราะนึกๆ ดูแล้ว เหมือนเป็นความหมายเชิงลบ)

เหตุเกิดคล้ายๆ ศึกยูโร 2020 ซึ่งเลื่อนโปรแกรมมาฟาดแข้งกันปี 2021 แมตช์ระหว่าง เดนมาร์ก กับ โปแลนด์ โดย คริสเตียน อีริกเซน จอมทัพ “โคนม” กำลังก้าวขาวิ่งแล้วล้มหน้าทิ่มเอาดื้อๆ เพื่อนร่วมทีมช่วยปฐมพยาบาล และยืนล้อมรอบขณะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ปฏิบัติหน้าที่ยื้อชีวิต แทบจะเป็นภาพเดียวกับการแข่งขันช่วงไพรม์ ไทม์ ของ สหรัฐอเมริกา

อ้างอิงตามแถลงการณ์ของ บิลล์ส ระบุว่า แฮมลิน เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หรือเรียกให้ดูโก้ๆ ว่า “cardiac arrest” โดยไม่มีรายงานอื่นๆ เพิ่มเติม ลองย้อนดูคลิปวิดีโออันน่าหวาดเสียว พอสรุปสาเหตุจากสำนักข่าว “บีบีซี (BBC)” ของประเทศอังกฤษ ได้ว่า แฮมลิน ถูก ที ฮิกกินส์ ปีกนอก เบงกอลส์ กระแทกตรงหน้าอก ขณะพยายามแท็คเกิล ส่งผลกระทบต่อหัวใจจนไม่สามารถสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกาย และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

สำหรับกรณีของ แฮมลิน เป็นภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งเกิดจากการถูกกระแทกตรงหน้าอก แตกต่างจากภาวะหัวใจวาย ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือความเป็นไปได้อีกประการหนึ่ง คือ การถูกกระแทกตรงหน้าอก ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างหลักของหัวใจจนหยุดทำงาน ถึงจุดนี้เรามิอาจสรุปได้ว่า แฮมลิน ได้รับบาดเจ็บภายในอย่างไร หรือเกิดความเสียหายต่อหัวใจอย่างไร

ลองมาเปรียบเทียบนักกีฬาวัยหนุ่มๆ อาจมีความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ ซึ่งเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เรียกว่า “hypertrophic cardiomyopathy” ดังนั้นบุคคลที่ดูแลร่างกายดี, สุขภาพแข็งแรง และไม่มีสัญญาณเตือนเกี่ยวกับความผิดปกติของหัวใจ อาจตกอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากอาการกล้ามเนื้อหัวใจโต หรือทำงานหนักเกินไป กล้ามเนื้อหัวใจที่หนาผิดปกติ ทำให้หัวใจสูบฉีดโลหิตเลี้ยงร่างกายยากขึ้น ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ

เซร์คิโอ อกูเอโร ศูนย์หน้า บาร์เซโลนา เป็นคนหนึ่งที่ถูกตรวจพบว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะ จึงต้องแขวนสตั๊ดด้วยวัยเลข 33 ปี และรับใช้สโมสรเพียง 4 นัด ยิง 1 ประตู ทั้งๆ ที่เรายังเห็นว่า เขายิงประตูเป็นกอบเป็นกำ ตลอดระยะเวลาเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 10 ปี (2011-2021) ฟาบริซ มูอัมบา มิดฟิลด์ โบลตัน วันเดอเรอร์ หมดสติคาสนาม เมื่อปี 2012 จนต้องจบอาชีพ ส่วน อีริกเซน ยังคงฟอร์มเด่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจไว้ในร่างกาย

ย้อนมาดูชีวิตคนทั่วไป ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เปรียบดั่งมหันตภัยเงียบ ซึ่งเรามิอาจทราบว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเมื่อใด แม้กระทั่งนักกีฬาอาชีพที่ดูว่าร่างกายแข็งแรง ฝึกซ้อมร่างกายมาทั้งชีวิต หรือแม้กระทั่งคุณแข็งแกร่งดุจซูเปอร์ไซย่า ก็มิอาจเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บเช่นนี้ได้ แต่อย่างน้อยเรายังมีวิธีป้องกัน เช่น หมั่นตรวจสุขภาพ, งดอาหารแคลอรีสูง หรือ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ผมเชื่อว่าทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยหน้าที่การงาน หรือธุระปะปังต่างๆ อาจทำให้เราละเลยได้

แหล่งข่าว https://m.mgronline.com/sport/