เว็บไซต์ นสพ.South China Moring Post ของฮ่องกง เสนอรายงานพิเศษ In Thailand, death of a ‘pretty’ underscores dangers of life as a hostess ว่าด้วยการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของ “วาวา” วิชญาพร วิเศษสมบัติ (“Wa-Wa” Whitchayaporn Visessombut) หญิงสาวที่ถูกว่าจ้างไปให้ความบันเทิงในงานเลี้ยงส่วนตัวของแขกรายหนึ่งในกรุงเทพฯ ค่ำวันที่ 22 ก.พ. 2564 ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเช้าวันที่ 23 ก.พ. 2564 จุดประเด็นความเสี่ยงของอาชีพ “พริตตี้” (หรือบ้างก็เรียก “เด็กเอ็นฯ”) ให้ถูกพูดถึงในสังคมไทยอีกครั้ง
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นชายไม่ทราบชื่อ 2 คน นำหญิงวัย 33 ปีรายนี้มาส่งที่โรงพยาบาลในเวลา 06.00 น. และจ่ายเงิน 15,000 บาทให้กับแคชเชียร์ก่อนจะออกจากโรงพยาบาล จากนั้นหญิงสาวถูกประกาศว่าเสียชีวิตในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ซึ่งแม้ว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิต แต่ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ (Atchariya Ruangrattanapong) ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า ผู้ตายเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลวเนื่องจากเสพเคตามีน (ยาเค) และเอ็กซ์ตาซี (ยาอี)
อัจฉริยะ อ้างคำบอกเล่าจากสมาชิกเครือข่ายของตน ว่าได้พูดคุยกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ถูกว่าจ้างให้ไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว แล้วพบว่าหนึ่งในแขกของงานเป็น “คนมีสี (Khon Mee Si)” ซึ่งเป็นศัพท์ที่คนไทยใช้เรียกบุคคลที่เป็นตำรวจหรือทหาร อย่างไรก็ตาม ไม่มีการยืนยันว่าแขกคนที่ถูกกล่าวถึงเป็นตำรวจหรือทหารกันแน่ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดตำรวจจึงยังไม่แจ้งข้อหาใดๆ กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานเลี้ยงครั้งนี้
พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ (Prasopchok Iemphinit) ผกก.สน.พหลโยธิน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2564 ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่คดีอาญา โดยในงานเลี้ยงดังกล่าวมีผู้ชายมากกว่า 1 คน และมีหญิงสาว 4 คนซึ่งรวมถึง วิชญาพร ด้วยที่ถูกว่าจ้างให้มาสร้างความบันเทิงในงาน แต่หากตรวจสอบแล้วไม่กี่การกระทำผิดคดีนี้ก็เป็นอันยุติลง โดยต่อมาในวันที่ 26 ก.พ. 2564 ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านหลังเกิดเหตุ รวมถึงเก็บหลักฐานจากรถยนต์ที่ใช้นำตัว วิชญาพร ไปส่งโรงพยาบาล
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า อาชีพพริตตี้หรือพนักงานต้อนรับ ในประเทศไทยมีค่าตัวตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงและบริการที่ลูกค้าคาดหวัง นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และใช้ยาเสพติด หญิงไทยจำนวนมากเดินเข้าสู่อาชีพนี้โดยมองเห็นถึงความมั่งคั่งที่คาดว่าจะได้รับ นอกจากนี้บางรายยังมีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ นำไปสู่การถูกว่าจ้างให้โฆษณาสินค้าต่างๆ อินสตาแกรมเป็นช่องทางที่สำคัญ และด้วยความที่มีการแข่งขันสูง ผู้หญิงหลายคนจึงลงทุนทำศัลยกรรมเพื่อดึงดูดใจผู้ว่าจ้างที่เป็นผู้ชายฐานะร่ำรวยและมีอำนาจ
แต่อีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงเหล่านี้ก็สุ่มเสี่ยงที่ถูกล่วงละเมิดและในประเทศไทยมีมาตรการทางกฎหมายในการดูแลผู้หญิงเพียงเล็กน้อย โดย สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง (Supensri Pungkoksung) ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม กล่าวว่า เมื่อลูกค้าซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลจ้างผู้หญิงไปร่วมงาน แม้จะเกิดกรณีข่มขืน ทำร้ายร่างกาย และบางกรณีถึงขั้นเสียชีวิต ตำรวจมักให้น้ำหนักกับคำให้การของลูกค้ามากกว่าเพราะมีสถานะทางสังคมสูงกว่า
“พิงค์ (Pink)” ในภาษาไทยหมายถึงสีชมพู เป็นชื่อของหญิงสาวรายหนึ่งที่ทำอาชีพนี้ขอให้ผู้สื่อข่าวเรียก เล่าว่า พริตตี้จะเรียกเก็บเงิน 5,000 บาท เป็นค่าจ้างในการสร้างความบันเทิงกับแขกในงานเลี้ยงเพียงไม่กี่ชั่วโมง และเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเผชิญความเสี่ยงตั้งแต่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ใช้เสพยาติด ไปจนถึงถูกล่วงละเมิดทางเพศ ผู้หญิงที่เข้าใจสถานการณ์จะรู้จักหาทางเอาตัวรอดออกมาจากจุดนั้นได้โดยเร็ว แต่ผู้ที่พบจุดจบกับปัญหานั้นอาจเป็นพราะมีแรงกดดันให้ทำงาน ไม่ว่าด้วยเรื่องเงินหรือด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้รับการว่าจ้างอีก
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า วาวา-วิชญาพร ไม่ใช่หญิงสาวคนแรกที่เสียชีวิตในกรณ๊แบบนี้ ย้อนไปในปี 2562 ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ (Thitima Noraphanphiphat) พริตตี้สาวเสียชีวิตที่ล็อบบี้คอนโดมิเนียม หลังไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านหลังหนึ่งในย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ผลชันสูตรระบุว่า หญิงรายนี้เสียชีวิตเพราะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป คดีนี้มีการจับกุมชาย 6 คน ทั้งหมดถูกตั้งข้อหามั่วสุมและกักขังหน่วงเหนี่ยว ต่อมาในเดือน ต.ค. 2563 ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกโดยบางคนถูกจำคุกถึง 8 ปี อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์
