ซิตี้แบงก์เปิด 10 กองทุนเด่น แนะติดตามสถานการณ์โลก-กระจายความเสี่ยง

News ข่าวล่าสุด

ธนาคารซิตี้แบงก์ นำเสนอ 10 กองทุนเด่นในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก ประกอบด้วยกองทุนที่น่าสนใจในกลุ่มภูมิภาค เช่น กองทุนหุ้นจีน กองทุนหุ้นยุโรป กองทุนหุ้นเอเชีย กองทุนหุ้นญี่ปุ่น หรือจะเป็นในกลุ่มสินทรัพย์ เช่น กองทุนด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนเทคโนโลยี เป็นต้น ระบุช่วยตอบโจทย์การลงทุน กระจายความเสี่ยง และช่วยเสริมความมั่งคั่งพอร์ตลงทุนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เตือนนักลงทุนต้องติดตามประเด็นสำคัญของสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนและรักษาผลประโยชน์ท่ามกลางสภาวะตลาดผันผวน

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมของตลาดการลงทุนทำยังคงมีความท้าทาย รวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่อาจยังคงสร้างความกังวลให้นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ในทุกสถานการณ์จะมีโอกาสในการลงทุนรวมอยู่ด้วยเช่นกัน ซิตี้แบงก์ในฐานะสถาบันทางการเงินระดับโลก ผู้ให้บริการด้านบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในชื่อ “ซิตี้โกลด์” (Citigold) ประกอบไปด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในทุกสถานการณ์เพื่อประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุด จะมาแนะนำ 10 กองทุนให้นักลงทุนได้เลือกกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมทั่วโลกที่น่าสนใจ เช่น

– กองทุนรวมตราสารทุน BGF Sustainable Energy Fund ที่เน้นการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด เช่น เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน พลังงานทางเลือก การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 27.4%*
– กองทุนรวมตราสารทุน Legg Mason ClearBridge Infrastructure Value Fund Class A Acc เน้นการลงทุนในตราสารทุนกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รางรถไฟ ถนน สนามบิน เสาไฟฟ้าที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยลงทุนในประเทศกลุ่ม G7 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และแคนาดา ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 12.5%*
– กองทุนรวมตราสารทุน Allianz China A Shares AT-USD โดยเน้นการลงทุนในตลาดหุ้นจีน AShares ของ PRC เพื่อการเติบโตของเงินทุนระยะยาว ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 39.5%*
– กองทุนรวมตราสารหนี้ PIMCO GIS Income Fund ECl USD Acc โดยลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงของทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำทั่วโลก ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 5.1%*
– กองทุนรวมแบบผสม Franklin Technology A (acc) USD ที่เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์จากการพัฒนาทางเทคโนโลยี ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 40.0%*
– กองทุนรวมตราสารทุน JPMorgan Global Healthcare A (Acc) USD Hgd เน้นการลงทุนในบริษัท Healthcare ทั่วโลก โดยเน้นหนักไปทางธุรกิจยา รองลงมาคือเทคโนโลยีชีวภาพ และ Medical Tech ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 18.7%*
– กองทุนรวมตราสารทุน JPMorgan Europe Small Cap A Acc – USD Hgd เน้นลงทุนในบริษัทยุโรปที่มีทุนขนาดเล็กเป็นหลัก ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 21.2%
– กองทุนรวมแบบผสม Allianz Income and Growth AT-USD ที่แบ่งการลงทุนเป็น 3 ส่วน ได้แก่ หุ้น ตราสารหนี้ และหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทในสหรัฐอเมริกาและหรือแคนาดา ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 17.6%*
– กองทุนรวมตราสารหนี้ Legg Mason WA Asian Opportunities Fund A Acc USD เน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) เช่น จีน เกาหลี รวมถึงบางประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 4.4%*
– กองทุนรวมตราสารหนี้ JPMorgan Japan Equity A Acc USD Hgd ที่จะลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก ให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี 23.4%

ทั้งนี้ ซิตี้โกลด์พร้อมนำเสนอการบริการความมั่งคั่งในการกระจายการลงทุนได้ทั่วโลกกว่า 200 กองทุน จากพาร์ตเนอร์ทางการเงินที่หลากหลายกับ 5 บลจ.ในประเทศและ 12 บลจ.ต่างประเทศ โดยมีความหลากหลายของกองทุนทั้งประเภทของสินทรัพย์ และภูมิภาคของการลงทุน ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลแบงกิ้ง เพื่อประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุด

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket